ต้นคล้าม้าลาย เรียบง่าย แต่สวยโดดเด่น .
ใบสีเขียว ลายทางขวางตามใบ ต้นนี้คือคล้าม้าลายครับ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Calathea zebrina Lindi. cv.Humilior ,Calathea zebrina Lindi. cv.Humilior
ชื่อสามัญ : Zebra Plant
ชื่อ : คล้าม้าลาย
ชื่ออื่นๆ : คล้าเสือโคร่ง ม้าลาย
วงศ์ : MARNTHACEAE

ลักษณะทั่วไปของต้นคล้าม้าลาย หรือ ต้นคล้าเสือโคร่ง จัดอยู่ในกลุ่มไม้พุ่มขนาดเล็ก มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ออกใบเป็นพุ่มค่อนข้างแน่น ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ ใบรูปไข่แกมรูปรีกว้าง 10-20 เซนติเมตร ยาว 30-35 เซนติเมตรโดยประมาณ ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือสอบ ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อยแผ่นใบหนา ผิวใบด้านบนมีลักษณะคล้ากำมะหยี่สีเขียวอ่อนอมเหลือง มีลายรูปหางลูกธนูชัดเจนเส้นกลางใบเป็นร่องสีเขียวอมม่วงแดงเล็กน้อย และมีกาบหุ้มตลอดแนวก้านดอกสีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อเชิงลดที่ปลายกิ่ง

เป็นไม้ร่ม แดดรำไร หากโดนแดดตรงๆใบจะไหม้ เหมาะปลูกในพื้นที่ร่ม ชื้น ชอบน้ำ ดินร่วนซุย และชอบใบไม้ผุ การขยายพันธุ์ นิยมแยกหน่อไปปลูก เลี้ยงง่าย โตเร็ว
ดูกันชัดๆกับใบของคล้าม้าลาย
ใบคล้าม้าลายเมื่อเทียบกับมือครับ
ลักษณะโคนต้น
การจัดสวนโดยนำคล้ามาลายมาประดับสวนบริเวณทางเดินครับ
ใบของคล้าม้าลายจะอยู่ได้นานหลายเดือนครับ ยิ่งถ้าปลูกเป็นกลุ่มใหญ่ จะเรียกความสนใจได้ไม่น้อยเลยครับ การปลูกเลี้ยง

ธรรมชาติของคล้ามักขึ้นตามป่าที่มีดินแฉะหรือมีน้ำขัง เจริญเติบโตได้ดีในที่มีอากาศเย็น(18-30 อาศา เซลเซียส) ความชื้นสูง แสงรำไร ลมโกรกน้อย แตก็มีบางสกุลที่ทนอุณหภูมิต่ำมากๆ ได้ ใบของคล้าจะไวต่อแสง แดด ความชื้น และอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมมาก เมื่ออยู่ในสภาวะที่เหมาะสม เช่นในฤดูฝน ใบจะมีสีสันและ ลวดลายสวยงาม แต่ถ้าได้รับแสงแดดจัดขณะที่มีคามชื้นในอากาศน้อยและอุณหภูมิสูง เช่นในฤดูร้อนหรือฤดู หนาว จะทำให้ เกิดรอยไหม้บนใบหรือขอบใบแห้ง ส่วนวัสดุปลูกนั้นต้องมีความชุ่มชื้น มีการระบายน้ำดี และมี อินทรียวัตถุปนอยู่บ้าง เช่น ดินปนทราย

การขยายพันธุ์

ควรทำในช่วงฤดูร้อนถึงฤดูฝน วิธีที่นิยมกันคือการแบ่งเหง้าหรือหัวที่โตเ๖มที่มาปลูกใหม่ ราว 2 - 3 สัปดาห์ ต้นใหม่ก็จะเริ่มตั้งตัวได้และเริ่งผลิใบใหม่ขึ้น ส่วนการเพาะเมล็ดจะให้ผลช้ากว่า และต้นที่ได้อาจมีการ กลายพันธุ์จากต้นเดิมจึงไม่นิยม ยกเว้นทำเพื่อผลิตลูกผสม

โรคและแมลงศัตรู

โรคที่พบมาก คือ โรคใบจุดสนิม เกิดจากเชื้อรา จะมีจุดสีน้ำตาลกระจายทั่วใบ ระบาดมากในฤดูหนาว ส่วนแมลงศัตรูที่พบได้แก่ เพลี้ยแป้ง ตั๊กแตน หนอนบุ้ง และไรแดง

ปัจจุบันคล้าที่ปลูกกันอยู่ในประเทศไทยมีทั้งชนิดที่เป็นพืชพื้นเมืองของไทยและนำเข้ามาจากต่างประเทศ ได้แก่ สกุล Calathea, Ctenanthe(สาคูทอง), Donax(คลุ้ม), Maranta(สาคู), Phrynium(สาดแดง สาดขาว), Schumannianthus(คล้า), Stachyphrynium(คล้า), Stromanthe และ Thalia(พุทธรักษาน้ำ) เป็นต้น นิยมปลูกเป็น ไม้ประดับ ใช้เป็นไม้ตัดดอก บางชนิดใช้เป็นอาหาร เช่น สาคู หรือใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรค และ ยังใช้ ประดิษฐ์เป็นเครื่องจักสานได้อีกด้วย