ต้นบานไม่รู้โรย,ดอกบานไม่รู้โรย,Pearly everlasting .
ดอกไม้ดอกกลมๆ นุ่มๆ สีม่วง,ขาว,ชมพู นิยมนำมาจัดพานพุ่ม และร้อยมาลัย ดอกนี้คือดอกบานไม่รู้โรยครับ

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gomphrena globosa L.
ชื่อวงศ์ : Amaranthaceae
ชื่อสามัญ : Pearly everlasting, Bachelor s button, Globe amaranth, Button agaga
ชื่อพื้นเมือง : กะล่อม ตะล่อม ดอกสามเดือน กุนหยี
ถิ่นกำเนิดนั้นไม่ทราบแน่ชัด บ้างก็ว่ากำเนิดในเขตร้อนของทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ หรือก็ว่ามีถิ่นกำเนิดในเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป และในอเมริกา ส่วนในวิกิพีเดียบอกว่าดอกบานไม่รู้โรยนั้นมีถิ่นกำเนิดในประเทศบราซิล, ปานามา และ กัวเตมาลา

ต้นบานไม่รู้โรยนั้นจัดเป็นไม้ล้มลุกขนาดประมาณความสูงไม่เกินเอวของคนเรานี่แหล่ะครับ มีอายุอยู่ได้ประมาณ 1 ปีครับ แตกกิ่งก้านเยอะ ดอกดก ทนแล้งได้ดี เลี้ยงดูง่าย นิยมปลูกเพื่อเก็บดอกขาย และปลูกเป็นไม้ดอกประดับ ใบของต้นบานไม่รู้โรยนั้นเป็นใบชนิดใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน รูปใบรี ปลายใบแหลม โคนใบสอบ โดยรวมทั้งต้นและใบของบานไม่รู้โรยนั้นจะมีขนปกคลุมกระจายอยู่ทั่วไปครับ

ดอกบานไม่รู้โรยนั้นมีละษณะเด่นคือออกดอกเป็นกระจุกแน่น มีลักษณะของกระจุกเป็นวงกลมหรือที่เราเห็นเป็นดอกกลมๆนั่นแหล่ะครับ คือดอกเล็กๆหลายๆร้อยดอก ออกเบียดรวมกันเป็นกระจุกรูปวงกลมครับ ดอกมีสีแดง ม่วง ขาว ชมพูอ่อน และชมพูแก่ครับ ส่วนเมล็ดของบานไม่รู้โรยจะซ่อนอยู่ในกลีบดอกครับ มีขนาดประมาณ 2-3มิลลิเมตร เมล็ดมีสีน้ำตาลอ่อน แบนเป็นรูปไข่ เวลาจะเอาไปปลูกต่อก็เอาไปทั้งดอกเลยครับ แล้วขยี้ให้ดอกแตกออก ก็จะได้เมล็ดออกมาครับ

การขยายพันธุ์ต้นบานไม่รู้โรยนั้นจะใช้เมล็ดครับ เพาะง่ายมากๆครับ ไม่จำเป็นต้องฝังดิน แค่โรยลงในวัสดุปลูก รดน้ำวันละ 2 ครั้ง ภายใน 1 อาทิตย์เราก็จะเห็นต้นอ่อนของดอกบานไม่รู้โรยแล้วครับ จากนั้นก็แยกไปปลูกได้เลยครับ แดดควรได้รับเต็มวัน ต้นบานไม่รู้โรยจะโตเร็ว พุ่มใหญ่ ดอกดกกว่าครับ

ดอกบานไม่รู้โรยยังถือเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งด้วยนะครับ มีความเชื่อว่าถ้าปลูกในบ้านแล้วจะช่วยเสริมเรื่องความรักตามชื่อบานไม่รู้โรยครับ คือรักกันโรยลา รักกันนิรันดร์ ทำนองนี้ครับ
ส่วนที่ประเทศจีนนั้นมีการนำดอกบานไม่รู้โรยมาทำเป็นชาดื่มกันด้วยนะครับ ส่วนตัวผมเคยซื้อมาทานครับ เค้าจะมัดดอกบานไม่รู้โรยรวมกับใบชาเป็นก้อนกลม แล้วเมื่อนำมาชงน้ำร้อนชาที่ผูกติดอยู่กับดอกบานไม่รู้โรยก็จะบานออก โดยมีดอกบานไม่รู้โรยอยู่ตรงกลางครับ สวยดีเหมือนกัน รสชาตินั้นผมเองก็แยกไม่ออกครับ ว่าต่างจากชาปกติอย่างไร เพราะไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการดื่มชาครับ

ส่วนที่ใช้ทำยา
ดอก ทั้งต้น และราก ดอกเก็บเมื่อดอกแก่ เอามาตากแห้ง เอาก้านดอกออกเก็บไว้ใช้ ดอกแห้งมีลักษณะกลมหรือยาวรี ส่วนมากออกเป็นช่อเดี่ยว แต่มีบางครั้งอาจติดกัน 2-3 ช่อ ดอกที่ดีคือดอกที่มีขนาดโต ๆดอกจะมีรสจืด ชุ่มสุขุม

สรรพคุณทางยาของดอกบานไม่รู้โรย (สีขาว)
ใช้บำรุงตับ แก้ตาเจ็บ แก้ไอระงับหอบหืด ขับปัสสาวะ แก้ปวดศรีษะ บิด ไอกรน แผลผื่นคัน ฝีประคำร้อย ปริมาณที่ใช้ ดอกแห้ง - ใช้หนัก 3-10 กรัม ต้มน้ำดื่ม, ทั้งต้น - ใช้หนัก 15-30 กรัม ต้มน้ำดื่ม ถ้าใช้ยาภายนอก ใช้ตำพอก หรือต้มเอาน้ำชะล้าง ถ้าจะใช้ตามตำรับยาก็มีดังนี้

- แก้หอบหืด ใช้ดอก 10 ดอก ต้มน้ำผสมเหล้าเล็กน้อย ดื่มวันละ 3 ครั้ง
- แก้บิดมูก ใช้ดอก 10 ดอก ต้มน้ำผสมเหล้าเล็กน้อยดื่ม
- แก้ปัสสาวะขัด ใช้ดอก 3-10 กรัม ต้มน้ำดื่มบ่อยๆ
- แก้เด็กเป็นโรคลมชัก ใช้ดอก 10 ดอก รวมกับตั๊กแตนแห้ง (oxya chinensis thumb.) 7 ตัว ตุ๋นรับประทาน
- แก้เด็กตัวร้อนตาเจ็บ ใช้ดอกสด 10-14 ดอก ต้มน้ำดื่ม หรือผสมกับฟักเชื่อมแห้งต้มน้ำดื่ม

ข้อมูลอ้างอิง : เภสัชกรหญิงสุนทรี สิงหบุตรา เภสัชกรด้านเภสัชสาธารณสุข. สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ดอกบานไม่รู้โรยสีม่วงอมแดง
ดอกบานไม่รู้โรยที่เราเห็นคือการรวมตัวกันของดอกเล็กๆหลายๆดอกมารวมกัน
บางครั้งดอกบานไม่รู้โรยก็ออกติดกันเป็นแพแบบนี้ครับ
ลักษณะของใบ และยอดอ่อนของบานไม่รู้โรยครับ
ดอกแห้ง หรือดอกแก่ เรานำดอกพวกนี้ไปเพาะต่อได้ครับ
ดอกบานไม่รู้โรยแห้ง .
นำดอกบานไม่รู้โรยที่แห้งมาขยี้ให้แตกจากกัน ในแต่ละกลีบแห้งพวกนี้จะมีเมล็ดซ่อนอยู่ภายในครับ เราไม่จำเป็นต้องแงะเอาเฉพาะเมล็ดที่อยู่ภายในกลีบออกมาหรอกนะครับ เราเอาไปเพาะพันธุ์ต่อทั้งอย่างนี้เลยครับ เป็นกลีบๆนี่แหล่ะครับ เวลาเพาะก็พยายยามกระจายๆหน่อยนะครับ เวลาแยกต้นอ่อนจะได้ทำได้สะดวกครับ ดอกบานไม่รู้โรยเป็นดอกไม้ที่ขึ้นได้ตลอดปี ออกดอกตลอดทั้งปีครับ ไม่มีช่วงเวลาเป็นพิเศษ สามารถเพาะพันธุ์ได้เลยเมื่อเราต้องการ ปุ๋ยก็ใส่เฉพาะปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักเท่านั้นครับ นอกนั้นรดน้ำอย่างเดียวครับ ยิ่งได้น้ำเยอะยิ่งโตไวครับ และต้นบานไม่รู้โรยยังเป็นพืชที่ทนแล้งได้ดีมากๆชนิดหนึ่งนะครับ ดอกก็ออกทนมาก 1 ดอกบานหลายเดือนเลยครับ (ภาคใต้เรียกว่าดอกสามเดือน)
ต้นบานไม่รู้โรย .
ภายด้านบนนี้คือภาพจากใต้ต้นของบานไม่รู้โรยครับ ดอกแห้งที่ล่วงลงมากองอยู่ใต้ต้น พอได้น้ำก็แตกออกมาเป็นต้นใหม่ ต้นเล็กๆเต็มไปหมดอย่างนี้แหล่ะครับ เราสามารถย้ายไปปลูกที่อื่นได้เลยครับ ไม่ต้องเพาะให้เสียเวลาเลย ขึ้นง่ายมากๆครับ สำหรับเจ้าต้นบานไม่รู้โรย
ชาจากประเทศจีนที่นำดอกบานไม่รู้โรยมาเป็นส่วนผสม