ยอ,ใบยอ,ยอบ้าน,มะตาเสือ,Indian Mulberry ชื่อวิทยาศาสตร์ : Morinda citrifolia L.
ชื่อสามัญ : Indian Mulberry
วงศ์ : Rubiaceae
ชื่ออื่น : ยอบ้าน (ภาคกลาง) มะตาเสือ (ภาคเหนือ) ยอ แยใหญ่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)

ยอเป็นพืชพื้นเมืองในแถบโพลีเนเซียตอนใต้ แล้วแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่นๆ ภาษามาเลย์เรียกเมอกาดู ในหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกเรียกโนนู ต้นยอเป็นไม้ต้นขนาดกลาง สูง 2-6 เมตรโดนประมาณ กิ่งอ่อนมีลักษณะของกิ่งเป็นสีเหลี่ยม มีสีเขียวเข้ม เมื่อกิ่งมีอายุมากก็จะค่อยๆกลมขึ้น ผิวลำต้นเรียบสีน้ำตาล ใบยอเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปรี กว้าง 8-15 เซนติเมตร ยาว 10-20 เซนติเมตร โดยประมาณ ขอบใบเรียบ แผ่นใบเรียบ สีเขียวเข้มเป็นมัน เห็นลายใบชัดเจน ดอกยอ ออกเป็นช่อกลมตามซอกใบ ดอกมีสีขาว กลีบดอกยอจะมีโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 แฉก มีกลิ่นหอม ผลยอ เป็นผลรวม ผิวขรุขระเป็นตุ่ม ซึ่งเป็นฐานของดอกอีกทีหนึ่ง ผลสุกมีกลิ่นเหม็น นิ่ม เมล็ดสีน้ำตาลมีหลายเมล็ด

การใช้ประโยชน์ต่างๆจากต้นยอ
ใบอ่อนของยอนำมาลวกกินกับน้ำพริก แกงจืด แกงอ่อม หรือใช้รองกระทงห่อหมก เรียกว่าห่อหมกใบยอ ใบยอผัดไฟแดง ลูกยอสุกกินกับเกลือหรือกะปิ ลูกห่ามใช้ทำส้มตำได้ ปัจจุบันมีการนำลูกยอไปคั้นเป็นน้ำลูกยอ ใช้ดื่มเป็นยาลดความดันโลหิต ทำให้นอนหลับ ป้องกันโรคภูมิแพ้

ใบสดใช้สระผม กำจัดเหา ผลยอแก่มี asperuloside แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน และแอนโทรควิโนน ช่วยขับพยาธิ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ในโพลีเนเซีย ใช้ผลอ่อน ใบและรากใช้รักษาความผิดปกติของประจำเดือน ความระคายเคืองในทางเดินอาหาร เบาหวาน โรคเกี่ยวกับตับ และการติดเชื้อในระบบขับถ่ายปัสสาวะ

รากใช้ย้อมสีให้สีแดงหรือสีน้ำตาลอ่อน เปลือกให้สีแดง เนื้อในเปลือกสีเหลืองใช้ย้อมสีผ้าบาติก ในฮาวาย สกัดสีเหลืองจากรากยอใช้ย้อมผ้า และมีการสกัดน้ำมันจากเมล็ดยอ ซึ่งมีกรดลิโนเลอิกมาก ใช้ทาเพื่อลดการอักเสบและลดการเกิดสิวได้

สรรพคุณทางสมุนไพรของส่วนต่างๆจากต้นยอมีดังนี้
ใบยอ
มีวิตามินเอ 40,000 กว่ายูนิตสากลต่อ 100 กรัม มีคุณสมบัติในการบำรุงสายตา หัวใจ คั้นน้ำทาแก้โรคเก๊าท์ ปวดตามข้อเล็กๆ ของนิ้วมือ นิ้วเท้า หรือคั้นน้ำสระผมฆ่าเหา แก้กระษัย ใช้ใบปรุงเป็นอาหาร แก้ท้องร่วง

รากยอ
ใช้เป็นยาระบาย แก้กระษัย ใช้สกัดสีออกมา เป็นสีย้อมผ้าได้ โดยผสมส่วนของเกลือต่างๆ สามารถเปลี่ยนเป็นสีต่างๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งสีเดิมของรากจะมีสีเหลือง หรือเหลืองปนแดง หากผสมตามส่วนด้วยเกลือ อาจจะได้สีแดง ชมพู น้ำตาลอ่อน สีม่วงแดง หรือสีดำ เป็นต้น

ผลยอโตเต็มที่แต่ไม่สุก
จิ้มน้ำผึ้งรับประทาน มีคุณสมบัติเป็นยาขับลม บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ขับลมในลำไส้ กระเพาะอาหาร แก้เหงือกเปื่อยเป็นขุมบวม ขับเลือดลม ขับโลหิตประจำเดือน

ผลดิบของยอ
ต้มน้ำรับประทานกับรากผักชี แก้อาการอาเจียนของหญิงมีครรภ์

วิธีและปริมาณที่ใช้
นำผลยอโตเต็มที่แต่ไม่สุก ฝานเป็นชิ้นบางๆ ย่างหรือคั่วไฟอ่อนๆ ให้เหลืองกรอบ ใช้ครั้งละ 1 กำมือ (10-15 กรัม) ต้มหรือชงกับน้ำ เอาน้ำที่จิบทีละน้อย และบ่อยๆ ครั้งจะได้ผลดีกว่าดื่มครั้งเดียว

เคมีที่พบ
ผลยอนั้นมีสารเคมี Asperuloside, caproic acid, caprylic acid และ glucose

ขอขอบคุณข้อมูลจากโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
www.rspg.or.th
ยอ,ใบยอ,ยอบ้าน,มะตาเสือ,Indian Mulberry การขยายพันธุ์ต้นยอ
ยอเป็นพืชที่สามารถขึ้นได้ดีในดินแทบทุกชนิดครับ แนะนำว่าให้ปลูกใกล้ๆกับน้ำ หรือตามร่องสวน จะได้ไม่ต้องคอยรดน้ำครับ วิธีการขยายพันธุ์ยอนั้นนิยมใช้เมล็ดนะครับ โดยเราเลือกเอาลูกยอที่สุกจัดๆ ผลนิ่มๆ หรือผลเน่าๆก็ได้ครับ นำมาบี้ล้างน้ำแยกเมล็ดออกให้สะอาด จากนั้นก็นำมาตากหรือผึ่งให้แห้งครับ แล้วก็เลือกเมล็ดที่มีลักษณะดีออกมา จากนั้นก็ใส่ถุงเพาะชำ หรือใส่กะบะเพาะชำก็ได้ครับ วัสดุปลูกช่วงแรกนั้นจะเป็นดินธรรมดาๆ หรือขุยมะพร้าว หรือแกลบ สามารถนำมาใช้ได้หมดครับ เลือกเอาตามที่สะดวก หย่อนเมล็ดแค่พอแตะๆดินก็พอครับ โรยดินทับบางๆ พอที่เราจะลดน้ำได้แล้วเมล็ดไม่กระเด็นก็พอครับ ต้นยอจะออกผลหลังจากที่เราปลูกประมาณ 2-3 ปีครับ
ดอกอ่อนของยอ,,มะตาเสือ,Indian Mulberry
ดอกยอที่กำลังบาน,,มะตาเสือ,Indian Mulberry
ลักษณะของการแผ่กิ่งก้านของยอ
ใบยอ ใบยอนิยมนำไปทำห่อหมกครับ เรียกว่าห่อหมกใบยอครับ ใช้ลองก้นกระทงของห่อหมก
ขนาดใบยอเมื่อเทียบกับมือ
กิ่งอ่อนของยอจะมีลักษณะหน้าตัดเป็นสี่เหลี่ยม พอโตขึ้นจะค่อยๆกลม
ต้นยอ ต้นนี้เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้วครับ
ลูกยอ